เนื้อหาข่าวจากหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่ 28 กรกฎาคม 2558

“หมอประเวศ” ติงที่ผ่านมาแนวทางการปฏิรูปการศึกษาทำได้ดี แต่ไม่ลงมือปฏิบัติจริง ส่งผลการศึกษาย่ำอยู่กับที่ แนะทุกฝ่ายจับมือเปลี่ยนแปลงประเทศไทย ขณะที่ สสส. จี้รัฐหนุนการอ่าน สร้างสังคมแห่งการเรียนรู้“

วันนี้ (28 ก.ค.) ศ.นพ.ประเวศ วะสี รองประธานมูลนิธิสดศรี-สฤษดิ์วงศ์ กล่าวปาฐกถานำตอนหนึ่งเรื่อง ระบบปฏิรูปการเรียนรู้ เพื่อการเรียนรู้ที่ดีของคนทั้งมวล ในเวทีการศึกษากับการเปลี่ยนแปลงประเทศไทย ที่โรงแรมเดอะสุโกศล กรุงเทพฯ ว่า การศึกษาเป็นเรื่องที่ไม่มีใครสั่งได้ว่า ให้ปฏิรูปแบบไหนถึงจะสำเร็จ ที่ผ่านมาแม้มีแนวทางการปฏิรูปการศึกษาที่ดี แต่ไม่มีการลงมือปฏิบัติอย่างจริงจัง การปฏิรูปการศึกษาไทยจึงยังไปไม่ถึงไหน ยังย่ำอยู่กับที่  ตนมองว่าการจะให้การศึกษาไทยดีขึ้น ต้องเกิดจากความร่วมมือของทุกฝ่าย เพื่อมาเรียนรู้ร่วมกัน และนำไปสู่การปฏิบัติจริงในสถานการณ์จริง การศึกษาจึงจะเปลี่ยนแปลงประเทศไทย ทั้งเรื่องความเหลื่อมล้ำ ความยากจน และคุณภาพของคนได้   ซึ่งการร่วมมือและการรวมตัวของคนมากๆ จะกลายเป็นทุนทางสังคมที่ทำให้เกิดการก่อตั้ง รวมกลุ่มเป็นพลังแห่งการเรียนรู้ และพลังจิตสำนึกที่มีอำนาจมากกว่าอำนาจรัฐ หรืออำนาจเงิน ดังนั้นหากมีการรวมกลุ่มแบบนี้เกิดขึ้น เชื่อว่าประเทศไทยจะมีระบบการพัฒนาที่ดีขึ้นได้

ด้าน นางสุดใจ พรหมเกิด ผู้จัดการแผนงานสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน สำนัก 5 สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า การอ่านหนังสือเป็นสิ่งหนึ่งที่จะช่วยพัฒนาเด็ก โดยเฉพาะระดับปฐมวัย ซึ่งเป็นวัยแห่งการเริ่มต้นการเรียนรู้ตลอดชีวิต แต่ขณะนี้การส่งเสริมการอ่านในครอบครัว และชุมชน ยังเกิดขึ้นได้ยาก เพราะหนังสือดีมีจำกัด และยังขาดกลไกที่จะช่วยส่งเสริมให้คนในชุมเกิดการอ่านหนังสือ ดังนั้นการจะทำให้เกิดชุมชนปฏิบัติการ หรือสร้างนครแห่งการอ่านได้ รัฐบาลต้องมีนโยบายสนับสนุน และส่งเสริมการอ่าน โดยอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน เพื่อใช้หนังสือเป็นสื่อในการพัฒนาเด็ก และสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้อย่างเป็นรูปธรรม.